Share

ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด เนื้อตาย! อาการเป็นไง รีบแก้ด้วยยาและ HBOT

Last updated: 9 Dec 2025
34 Views

ในยุคที่หัตถการความงามเข้าถึงได้ง่าย การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึก หรือเสริมคาง กลายเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกัน แต่ภายใต้ความสวยงามนั้น "ความปลอดภัย" คือสิ่งที่ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ เพราะในวงการแพทย์ความงามมีฝันร้ายหนึ่งอย่างที่ทั้งแพทย์และคนไข้ไม่อยากให้เกิดขึ้น นั่นคือภาวะฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด

หลายท่านอาจเคยเห็นข่าวหน้าหนึ่งหรือกระทู้รีวิวที่น่าตกใจ เกี่ยวกับคนไข้ที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วจมูกเน่า เนื้อตาย หรือถึงขั้นตาบอด ความกังวลเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรเพิกเฉย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตระหนกจนไม่กล้าทำสวย หากเรามีความรู้ที่ถูกต้อง

ข่าวดีคือ ภาวะฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด สามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้ หากคนไข้และแพทย์รู้ตัวไว และเข้าสู่กระบวนการรักษาในช่วงเวลาทอง (Golden Period) ได้ทันท่วงที วันนี้หมอและทีมงาน ALINE Clinic จะมาเจาะลึกเรื่องนี้แบบหมดเปลือก พร้อมแนะนำตัวช่วยกู้ผิวอย่าง HBOT เพื่อให้คุณสวยได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุดครับ

ภาวะฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด (Vascular Occlusion) คืออะไร?
ภาวะฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด หรือในทางการแพทย์เรียกว่า Vascular Occlusion คืออุบัติการณ์ที่สารเติมเต็ม (Hyaluronic Acid) ถูกฉีดเข้าไปในหลอดเลือดแดงโดยตรง หรือฉีดในปริมาณมากจนไปกดทับหลอดเลือดจากภายนอก เปรียบเสมือนสายยางรดน้ำต้นไม้ที่ถูกเหยียบหรือมีอะไรไปอุดตัน ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงพื้นที่ปลายทางได้

เมื่อเลือดไม่เดิน เนื้อเยื่อบริเวณนั้นก็จะเริ่มขาดออกซิเจนและสารอาหาร (Ischemia) ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังเริ่มบาดเจ็บ หากปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่ได้รับการแก้ไข ภาวะฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด นี้จะลุกลามจนทำให้เซลล์ตายถาวร เกิดการเปลี่ยนสี บวมช้ำ และนำไปสู่ภาวะเนื้อตาย (Necrosis) ในที่สุด ซึ่งอาจทิ้งรอยแผลเป็นขนาดใหญ่หรือความพิการไว้ได้

ดังนั้น การตระหนักรู้ถึงอาการของฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด จึงเป็นเรื่องที่คนไข้ทุกคนต้องทราบ ไม่ใช่แค่หน้าที่ของหมอเพียงฝ่ายเดียว

เช็กด่วน! 5 สัญญาณเตือน "ฟิลเลอร์อุดตัน" ก่อนเนื้อตาย
เพื่อความปลอดภัยสูงสุด หลังฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง ให้หมั่นสังเกตอาการตัวเองอย่างใกล้ชิด โดยข้อมูลจากคลินิกชั้นนำและงานวิจัยทางการแพทย์ ได้สรุป 5 สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลังเผชิญกับภาวะ ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด ดังนี้

ผิวซีดขาว (Blanching) เป็นสัญญาณแรกที่ชัดเจนที่สุด คือผิวบริเวณที่ฉีดหรือพื้นที่ใกล้เคียง (ตามแนวเส้นเลือด) มีสีซีดขาวลงทันที หรือเกิดขึ้นหลังฉีดไม่นาน เกิดจากการที่เลือดไม่สามารถวิ่งไปเลี้ยงผิวหนังได้
ปวดรุนแรงผิดปกติ (Severe Pain) อาการปวดตื้อๆ หรือปวดแสบปวดร้อนที่รุนแรงกว่าปกติ แม้จะมีการแปะยาชาหรือฉีดยาชาแล้วก็ตาม โดยมักจะปวดทันทีขณะฉีดหรือปวดมากขึ้นเรื่อยๆ หลังกลับบ้าน
ลายตาข่าย (Livedo Reticularis) หากปล่อยไว้สักพัก ผิวที่ซีดจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ หรือมีลวดลายคล้ายตาข่ายปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะขาดเลือด (Ischemia) ที่รุนแรงขึ้นของอาการ ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด
ตุ่มหนอง (Pustules) ในระยะต่อมา ผิวหนังที่ขาดเลือดจะเริ่มอ่อนแอ เกิดการอักเสบและมีตุ่มหนองพุพองเกิดขึ้น
ผิวเปื่อยยุ่ย/ดำ (Necrosis) นี่คือระยะสุดท้ายที่น่ากลัวที่สุด คือเนื้อเยื่อตาย เปลี่ยนเป็นสีดำและหลุดลอก

image source: https://www.annemergmed.com/article/S0196-0644(23)00578-4/abstract

ความต่างระหว่าง อักเสบหรือแพ้ฟิลเลอร์ vs ฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด
หลายคนสับสนระหว่างอาการแพ้กับอาการอุดตัน ซึ่งการแยกแยะให้ออกสำคัญมากต่อการรักษา:


อาการ 
ฟิลเลอร์อักเสบ/ติดเชื้อ/แพ้ 
ฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด

ระยะเวลาเกิด 
มักเกิดช้า (Delayed onset) อาจบวมหลังฉีด 3-7 วัน 
เกิดทันที (Immediate onset) หรือภายใน 24 ชม.

ลักษณะอาการ 
บวม แดง ร้อนบริเวณที่ฉีด อาจมีไข้ 
เจ็บปวดรุนแรงทันที ผิวซีด หรือขึ้นลายตาข่าย

ความเร่งด่วน 
ควรรรีบพบแพทย์ แต่ยังพอรอได้ 
ภาวะฉุกเฉิน ต้องพบแพทย์ทันที

 

วิธีรักษาฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด ต้องแข่งกับเวลา (Golden Period)
เมื่อสงสัยว่ามีภาวะ ฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด กฎเหล็กข้อเดียวคือ "ห้ามรอ" ต้องรีบกลับมาพบแพทย์เจ้าของไข้หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที เพราะทุกวินาทีคือการรอดชีวิตของเซลล์ผิวหนัง

1. การฉีดสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase)
นี่คือหัวใจสำคัญของการรักษา (First Line Treatment) แพทย์จะต้องรีบฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase ในปริมาณความเข้มข้นสูง (High Dose) เข้าไปในจุดที่เกิดปัญหาและบริเวณรอบๆ ทันที และอาจต้องฉีดซ้ำทุกๆ ชั่วโมง จนกว่าจะเห็นว่าการไหลเวียนเลือดกลับมาเป็นปกติ ผิวเริ่มกลับมามีสีเลือดฝาดอีกครั้ง

2. การให้ยาขยายหลอดเลือดและลดการแข็งตัวของเลือด
นอกจากการสลายตัวการที่อุดตันแล้ว แพทย์อาจพิจารณาให้ยา Aspirin เพื่อลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด หรือใช้ยาป้าย Nitroglycerin เพื่อขยายหลอดเลือด ร่วมกับการประคบอุ่น (Warm Compress) เพื่อช่วยให้เลือดกลับมาไหลเวียนได้ดีขึ้น บรรเทาอาการฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด

3. กู้คืนผิวด้วย HBOT ทางเลือกใหม่รักษาเนื้อตายจากฟิลเลอร์
ในกรณีที่เนื้อเยื่อขาดออกซิเจนไประยะหนึ่งแล้ว การฉีดสลายเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการกู้คืนสภาพผิวให้กลับมาสมบูรณ์ ที่ ALINE Clinic เราจึงนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงอย่าง HBOT เข้ามาใช้ร่วมด้วย 

งานวิจัยได้ระบุถึงประสิทธิภาพของ HBOT หรือ Hyperbaric Oxygen Therapy ในการรักษาภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดสารเติมเต็มไว้ว่า HBOT สามารถช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่กำลังจะตายจากภาวะ ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด ได้ด้วยกลไกดังนี้

เพิ่มออกซิเจนระดับเซลล์ การเข้าไปอยู่ในอุโมงค์ออกซิเจนความดันสูง จะช่วยให้ออกซิเจนละลายลงในน้ำเลือด (Plasma) ได้มากกว่าปกติหลายเท่า ทำให้สามารถส่งออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อปลายทางที่กำลังขาดเลือดได้ แม้ว่าเม็ดเลือดแดงจะยังเดินทางไปไม่ถึงก็ตาม
ลดอาการบวม (Edema) ช่วยลดความดันในเนื้อเยื่อ ทำให้เลือดไหลเวียนกลับมาได้ง่ายขึ้น
สร้างเส้นเลือดใหม่ (Neovascularization) กระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นเลือดฝอยขึ้นมาทดแทนเส้นเลือดที่เสียหาย
งานวิจัยสรุปว่า การใช้โปรแกรม HBOT เป็นตัวช่วยเสริม (Adjuvant therapy) ควบคู่กับการฉีดสลายและการใช้ยา จะช่วยลดความเสี่ยงของการสูญเสียเนื้อเยื่อถาวรได้อย่างมีนัยสำคัญ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และลดโอกาสเกิดแผลเป็น

ป้องกันฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย?
แม้เราจะรู้วิธีรักษา แต่การป้องกันไม่ให้เกิดย่อมดีที่สุด การลดความเสี่ยงของ ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด เริ่มต้นที่การเลือกคลินิกและแพทย์

แพทย์ต้องมีความเข้าใจกายวิภาค (Anatomy) เส้นเลือดในใบหน้าอย่างละเอียด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะรู้ตำแหน่งของเส้นเลือดสำคัญบนใบหน้า และรู้เทคนิคการวางยาในชั้นผิวที่ปลอดภัย
ใช้เข็มทู่ (Cannula) ในจุดเสี่ยง: การใช้เข็มทู่ช่วยลดโอกาสที่ปลายเข็มจะแทงทะลุเข้าเส้นเลือดได้ดีกว่าเข็มแหลม โดยเฉพาะจุดเสี่ยงอย่าง ร่องแก้ม หรือขมับ
ALINE Clinic และคุณหมอภูวิช ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง ทุกครั้งก่อนเดินยา หมอจะทำการ Aspiration (ดึงก้านเข็มเพื่อดูว่ามีเลือดไหลย้อนกลับมาหรือไม่) เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าปลายเข็มไม่ได้อยู่ในเส้นเลือด และเรามียาสลายฟิลเลอร์รวมถึงอุปกรณ์ฉุกเฉินเตรียมพร้อมตลอดเวลาสำหรับทุกเคส
บทสรุป
ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ก็มีความเป็นไปได้ในหัตถการทางการแพทย์ สิ่งสำคัญคือ "สติ" และ "ความไว" หากคุณฉีดฟิลเลอร์มาแล้วมีอาการปวดผิดปกติ ผิวซีด หรือสีผิวเปลี่ยน ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าเป็นอาการของ ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด

อย่าเกรงใจหมอ อย่ารอจนเช้า หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบติดต่อคลินิกทันที สำหรับใครที่มีความกังวล หรือต้องการปรึกษาปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถทักมาปรึกษา หรือส่งรูปมาให้หมอประเมินเบื้องต้นได้ที่ ALINE Clinic เราพร้อมดูแลและแก้ไขสถานการณ์ด้วยเครื่องมือที่ครบครัน ทั้งยาสลายและเครื่อง HBOT เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของคุณครับ




งานวิจัยอ้างอิง 

https://www.annemergmed.com/article/S0196-0644(23)00578-4/abstract

https://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/jocd.15677


Related Content
Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT): A New Trend in Health and Beauty Recovery
Modern health care goes beyond diet and exercise — it’s about deep, cellular recovery that restores vitality from within. One of the fastest-growing innovations today is Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) — a scientifically backed treatment long used in medical practice, now gaining popularity among premium aesthetic and wellness clinics, including several clinics in Korat that use it to support post-surgery recovery.
ออกซิเจนช่วยนอนหลับ
การนอนหลับเป็นกระบวนการพื้นฐานที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของชีวิตมนุษย์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ซ่อมแซม ฟื้นฟูสมองและระบบประสาท ปรับสมดุลฮอร์โมน และเสริมภูมิคุ้มกัน หากการนอนไม่มีคุณภาพหรือไม่เพียงพอเป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง อารมณ์แปรปรวน ความจำลดลง และความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
icon-messenger
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy